สเตนเลส ทุกเกรดมีความต้านทานต่อการกัดกร่อนสูง โลหะเกรดผสมต่ำ (Low alloyed grade) สามารถต้านทานการกัดกร่อนในบรรยากาศปรกติ โลหะเกรดผสมสูง (High alloyed grade) สามารถต้านทานการกัดกร่อนในกรด ด่าง สารละลายและบรรยากาศคลอไรด์ได้เกือบทั้งหมด แม้จะมีอุณหภูมิและความดันในการใช้งานสูงก็ตาม ความต้านทานต่ออุณหภูมิ สูงและอุณหภูมิต่ำ (High and Low temperature resistance) บางเกรดต้านทานต่อการเกิดสะเก็ด และคงความแข็งแรงที่อุณหภูมิสูงมาก ขณะที่ยังคงความเหนียวแน่นในการงานที่อุณหภูมิติดลบ
สเตนเลสส่วนใหญ่สามารถ ตัด เชื่อม ขึ้นรูป ตบแต่งทางกล หรือการประกอบอื่นๆได้ง่าย
สเตนเลส สามารถเพิ่มความแข็งได้จากการขึ้นรูปเย็น (Clod work hardening) ทำให้สามารถออกแบบงานเพื่อลดความหนา น้ำหนักและราคา สเตนเลสบางเกรดอาจใช้ในงานที่ทนความร้อนขณะที่ยังคงความแข็งแรงสูง
สเตนเลส ทำให้ผิวสวยงามได้หลายวิธี และง่ายต่อการบำรุงรักษาให้ผิวงานมีคุณภาพสูง สามารถทำให้ผิวมีสีทอง บรอนซ์ เขียว เงินและสีดำ ด้วยกรรมวิธีชุบเคลือบผิวด้วยเคมี-ไฟฟ้า
ความ สามารถในด้านความสะอาด เป็นเหตุผลข้อแรกที่เลือกใช้สเตนเลสในงานโรงพยาบาล ห้องครัว เครื่องครัว ด้านอาหารและด้านเภสัชกรรม วงจรชีวิตของการใช้งานสเตนเลส คือ ทนทาน การบำรุงรักษาต่ำ และค่าใช้จ่ายต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาในการใช้งาน สเตนเลสสามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่ได้ง่าย และเศษของสเตนเลสมีคุณค่าสูง
เป็น มาตรฐานของสถาบันเหล็กของสหรัฐอเมริกา กำหนดชื่อเรียกเป็นตัว เลข 3 ตำแหน่ง เช่น 304 หรือ 316 ซึ่งเป็นระบบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ตัวอักษรพิเศษต่อท้าย ใช้กำหนดส่วนผสมตัวแปรเฉพาะที่ต้องการพิเศษ เช่น 304L, 316LN หรือ 310S
เป็น มาตรฐานของสมาคมวิชาชีพ ทางด้านวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ที่กำหนดมาตรฐานซึ่งเป็นที่นิยมใช้ และเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก สมาคม ASTMจัดตั้งขึ้นในสหรัฐอเมริกา สำหรับการเรียกสเตนเลสเกรดต่างๆ เช่น A240, A554, A270 เป็นต้น